## หัวใจที่ยิ่งใหญ่ต้องมีเป้าหมาย ส่วนหัวใจทั่วไปมักมีแต่ความปราถนา ##
ผมเจษฎาณัฐ ดุจวรรณ(เจษ) อาชีพวิศวกรโยธา และรักอาชีพนี้มากครับ ผมจบการศึกษาปริญญาโท ภาควิชาวิศวกรรมโยธา และสิ่งแวดล้อม จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งในอดีตได้ทำงานในบริษัทเอกชนมาร่วม 10 ปี ปัจจุบันทำธุรกิจร่วมงานกับกลุ่มโคลเว่อ สร้างกลุ่มผู้บริโภคขนาดใหญ่ และอาชีพวิศวกรโยธาควบคู่กันไป แต่ไม่เคยมองธุรกิจกับกลุ่มโคลเว่อเป้นงานเล็กๆ กระจอกๆ หากย้อนไปเมื่อ เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมันก็เป็นวันธรรมดาของผมวันหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นผมยังทำงานประจำรับเงินเดือนอยู่ ประกอบกับปัจจุบันการแข่งขันทางธุรกิจทุกๆ ธุรกิจมีสูงมากใช่ใหมครับ. และความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติก็มาก น้ำท่วม ซึนามิ พายุ เหตุการกีฬาสี(ประท้วง) ก้มีกันบ่อยใช่ใหมครับ?. ซึ่งเราไม่สามารถคาดหวังกับอนาคตที่ไม่แนนอนนี้ได้ ทำให้ผมต้องมองหาอะไรทำเพิ่มนอกเหนือจากงานทางด้านวิศวกรรมโยธา. จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีผู้เปิดโอกาสได้รู้จักกับกลุ่มโคลเว่อ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับ บริษัทเอมสตาร์ ซึ่งโดยส่วนตัวผมก็เป็นคนไม่ปิดโอกาสตัวเองอยู่แล้ว.เพราะผมยังไม่ทราบข้อมูลจริง ๆ ว่ามันมีเนื้องาน วิธีการทำงานแบบใหน และผลลัพธ์ที่ได้จากงานนี้สร้างมูลค่าขนานใหน. น้องเขาก็บอกว่าเป็นธุรกิจของคนไทย ก่อตั้งโดยคนไทย เราก้คิดในใจดีเลย คนไทยต้องช่วยไทย และที่ดีมากในตอนนี้การเติบโตเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย พี่ไม่ต้องขายของ, ไม่มีเสียเพื่อน,ไม่มีเสียญาติ แค่เราเปลี่ยนที่ซื้อสินค้าจากที่เราเคยซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นจากบิกซี คาฟูร์ โลตัส หรือจากที่อื่นๆซึ่งเป็นรายจ่าย ของครอบครัว และผมก็ซื้อมานานแล้วเหมือนกันตั้งแต่จำความได้ไม่เคยได้เงินปันผลคืนมาอยู่แล้ว นอกจากสแตม หรือบัตรส่วนลด. น้องนาก็บอกว่าให้พี่โยกเงินก้อนเดิมที่ซื้อที่อื่น มาซื้อของที่ใหม่ กับบริษัทเอมสตาร์ ที่เอมตาร์ผลิต ซื้อไปใช้เอง ไม่ใช่เอาไปขายใครๆ "และผมก็ได้เงินคืน(ตอนนั้นผมคิดในใจมีด้วยหรือว๊ะห้างแบบนี้ซื้อแล้วได้เงินคืน ลองแกล้งโง่ ฟังต่อสิเจษ)" และธุรกิจสามารถขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้หลายประเทศทั่วโลก ไม่ใช่แค่เมืองไทย ตามแผนธุรกิจของบริษัทที่มีความเป็นไปได้สูง ซึ่งผมเองก็เป็นคนหนึ่ง ที่พอจะคิดได้ พอเห้นแผนที่มันง่ายขนาดนี้ ประกอบกับผมเองก้ไม่ได้โง่ ผมเองก็พอจะคิดได้. ซึ่งน้องเขาบอกว่าบางคนนะพี่ไม่มีความรู้อะไรเลย แต่แค่ลองมาตั้งใจเรียนรู้ พัฒนาตัวเองต่อเนื่อง เพิ่มเติมกับกลุ่มโคลเว่อ ก็มีรายได้เพิ่มอีกทางนึง เป้นอะใหล่สำรอง ให้ชีวิตครอบครัวเราแล้ว คิดดูนะพี่รถ ยังมียางอะใหล่สำรอง คนเราก้ควรมาอาชีพมากกว่า 1 อาชีพเช่นกันเพื่อสรองความเสี่ยง. พี่แค่ซื้อของไปใช้เลียนแบบการใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้น เองคิดในใจแมร่งอะไรจะง่ายขนาดนั้น. ส่วนตัวถ้าจะคิดหาอะไรทำเพิ่มไม่เจอวิกฤติก็ต้องมีวิสัยทัศน์ ผมขอเลือกเป็นคนมีวิสัยทัศน์ก่อนเจอวิกฤติดีกว่าครับ และที่สำคัญคือ ผมก็ทำเลย ไม่คิดมาก เพราะเป้นอะไรที่ง่ายมากๆ และสินค้าชิ้นแรกที่ผมได้ตัดสินใจซื้อ คือน้ำมันรำข้าวจมูกข้าว ผมได้ส่งให้คุณพ่อ - คุณแม่ และตลอดเวลาอันสั้นอาการของคุณพ่อผม มีอาการดีขึ้นมาก จากการที่ท่านไม่สามารถเดินได้สะดวกมากนัก ท่านสามารถกลับมาทำงานที่ท่านชอบได้ และเดินได้สะดวกขึ้น แต่ไม่เพียงแต่คุณพ่อผมจะมีอาการดีขึ้นจนผิดหูผิดตา คือดีขึ้นมาก ผมก็เป็นอีกคนนะครับที่เป็นผลิตผลจากการทานน้ำมันรำข้าวจมูกข้าว และทดลองใช้ ไวท์เอ็กซ์เปิร์ท คอเรคทีฟ ซีรั่ม(ดูแลผิวพร้อมบำรุง) ผมเป็นภูมิแพ้ ที่หน้าเป้นผื่นแดง ซึ่งนอนดึกก็ไม่ได้ อากาศร้อน อากาศหนาว ซึ่งหน้าของผมจะเป็นผื่นแดง ๆ ต้องใช้ยาทาประเภทสาร สเตอรอยด์ รักษาตามคลีนิคต่าง ๆ มามากแล้ว คุณหมอสรุปว่าเป็นผิวแพ้ง่าย แต่เมื่อผมทานน้ำมันรำข้าวและจะมูกข้าวทำให้อาการแพ้ของผมดีขึ้น ปัจจุบัน ไม่มีอาการแพ้อีกเลย และนี่ก็คือสิ่งที่ผมได้รับจากการทำธุรกิจ ทำให้ผมเปิดใจจากสินค้าเข้าไปอีก ผมจึงเริ่มเปิดโอกาสให้คนที่ผมรักและปราถนาดี ตลอดการเริ่มทำธุรกิจนี้ถึงทุกๆคน สุขภาพดีขึ้น รูปร่างหน้าตา ขาว ใสขึ้น ดูดีขึ้น(คุณเคยเห็นภาพวิศวกร ที่อยู่ตามหน่วยงานก่อสร้างใหม? ปัจจุบันภาพเซอๆติสๆๆ ไม่หลงเหลือในตัวผมอีกเลย) รวมถึงรายได้ด้านการเงินได้ที่เพิ่มขึ้นอีก 1 ทาง ดั่งคำพูดที่ว่า "รายได้หลายทาง ดีกว่าทางเดียว" ซึ่งปัจจุบันผมมีรายได้มากกว่า 300,000 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นทุกๆเดือนเป็นทวีคูณ
และสุดท้ายต้อง ขอขอบคุณผู้เปิดโอกาสทางธุรกิจ
คุณนา - คุณนัช ขอบคุณผู้สอนงานและแนะนำการทำธุรกิจ
คุณนา - คุณนัช , คุณติ๊ก , คุณต้อง , คุณทอม , คุณจอย
เจษฎาณัฐ ดุจวรรณ
089-7983497
pe_thaiwin@yayoo.co.th
ความรักความผูกพัน