Construction Engineering Technology and Management professional project management approaches to finance, plan, design, construct, monitor control construction projects and Attorney-At-Law.
Jadsadanat Dujawan
![Jadsadanat Dujawan](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhVQDgpMkkJWzAitSuTmfsfx7Qx0MD6bhixVLHlmD5b3aIpjHq3qgm0XP6uXBI2hjp7XZZWYmm6xJh1EusZJ82zVEQ3SbZ_S83Nuvb9rYiqIjdiweNaS9eLnuDEqXF9kNnKBGvtG6GO0MM/s760/IMG00219-20121220-2113.jpg)
รับงานบริการ ด้านวิศวกรรม และอื่นๆ โทร 0897983497
Services by Jedsadanat
Mobile: 089-7983497
* Designs Architecture -ออกแบบสถาปัตยกรรม
* Designs Structure -ออกแบบโครงสร้าง
* Construction Planner -วางแผนงานการก่อสร้าง
* Construction Management -การบริหารการก่อสร้าง
* Other in Civil Engineer -อื่นๆ ในสาขาวิศวกรรมโยธา
* Attorney-At-Law - ทนายความ
* Clover Group/Aimstar - กลุ่มโคลเว่อกรุ๊ป/เอมสตาร์
ก่อนอื่น เรามาฟังนิทาน สร้างใจกันก่อนดีกว่า"ในเรื่อง
ความเชื่อ ที่บ่งชี้ความเป้นไปได"
คุณเคยได้ยินเรื่องที่ควาญช้างฝึกลูกช้างใหมครับ?
เขาจะผูกลูกช้างใว
กับกิ่งไม้ ลูกช้างก็มักจะพยายามดิ้นให้โซ่หลุดออกจากกิ่งไม้ แต่กิ่งไม้
ก้ไม่ขยับเขยื้อนเลย
ลูกช้างใช้ความพยายามอยู่หลายวันแต่ก็ไม่เป็นผล
มันเริ่มจะเชื่อแล้วว่า ตัวเองไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำให้กิ่งไม้หักได้ จนในที่สุด
ในที่สุดลูกช้างก้เชื่อว่าไม่สามารถทำให้กิ่งไม้หักได้ มัน
จึงยอมแพ้เมื่อลูกช้างโตขึ้น
แม้ว่ามันจะมีน้ำหนักหลายสิบตัน แล้วก็ตาม
เมื่อควานช้างนำไปผูกใว้ที่กิ่งไม้ มันก็ไม่เคยที่จะพยามหนีไป ใหน เพราะมันเชื่อว่ามันคงหนีไปใหนไม่ได้แล้ว
และมันก้ไม่เคยแม้แต่ให้โอกาสตัวเองสักครั้งเพื่อพยายามหนีอีกเลยเปรียบได้หลายครั้งกับผู้คนมักใส่โปรแกรมความเชื่อ ว่า
ตัวเองคง ไม่สามารถหลุดพ้นจากวิถีชีวิตเดิมๆๆ
ไม่สามารถทำอะไรได้มากไป กว่านี้ แน่นอนเราไม่มีทางที่จะรู้ว่า ในที่สุดความเป้นจริงที่เกิดขึ้นใน อนาคตคืออะไร
แต่ผมก้เชื่อว่าผลลัพธ์ที่ออกมามันจะใกล้เคียงกับ
ความเชื่อของเรา เชื่อว่าเราสามารถหลุดพ้นจากวิถีชีวิตเดิมๆ แล้วทำให้คุณค่ามากกว่าเดิมได้
ผลลัพธ์จากความเชื่อที่ใกล้เคียง
ความเป็นจริงที่สุดคือ
"คุณจะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม และมีคุณค่ามากกว่าเดิม"
2/12/53
สร้างจิตสำนึก กับคำพูด
การใช้คำพูดที่ดีกับผู้อื่นก็ทำให้คุณดูมีเสน่ห์ได้ โดยการรู้จักใช้คำพูดให้เป็นศิลปะในการผู้มัดใจคนได้ การพูดก็ไม่ควร เลือกที่รักมักที่ชัง จงใช้ภาษาพูดที่ไพเราะ สุภาพกับทุกๆ คนที่เป็นลูกค้าไปทางบวก(Positive Wording) จะทำให้ลูกค้ารัก เอ็นดู และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ และความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ แต่ในทางกลับกันคำพูดทางลบ(Negative Wording) ก็จะเป็นสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ย่อมนำไปสู่ความไม่พอใจ ไม่ชอบ โดยคำพูดในทางลบนั้นเหมือนหลุมพรางที่จะทำให้คุณตกลงไป ซึ่งหลุมพราง ของคำพูดทางลบทั้งหมด 8 แบบ ดังนี้
1."ขวานผ่าซาก"
เป็นคำพูดของคนที่ไม่คิดก่อนพูด ใช้คำพูดโผงผาง ตรงๆ ถ้าไม่ต้องการให้ผู้อื่นรู้สึกเสียใจ ควรที่จะคิดก่อนเสมอว่าจะพูดอะไร และอย่าลืม การใช้ประโยคเกริ่นนำในทางบวก เพื่อให้ลูกค้ามีความรู้สึกดี
2."ยุแยง ตะแคงรั่ว"
เป็นคนที่ชอบยุแหย่ให้คนเกลียดกัน ซึ่งคนส่วนมากมักจะหลีกเลี่ยงที่ไม่เผชิญหน้ากับคนจำพวกนี้ เพราะคบหาสมาคมด้วยแล้วรู้สึกว่า ชีวิตไม่มีอะไรสร้างสรรค์เลย พูดคุยด้วยแล้วรู้สึกสลดหดหู่
3."เข้าใจอยู่คนเดียว"
เป็นคนที่พูดจาไม่รู้เรื่อง เพราะคนอื่นฟังแล้วไม่เข้าใจ คำพูดแบบนี้จะทำให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจผิด และอาจจะทำให้เกิดเรื่องขึ้นได้ เพราะเกิดการส่งความหมายที่ผิดพลาด ไม่เป็นไปดังที่ตั้งไว้ ดังนั้นเมื่อพูดอะไรไปแล้วควรตรวจสอบความเข้าใจของฝ่ายตรงข้าม ให้ชัดเจนว่าเข้าใจตรงกันหรือไม่ โดยอาจถามว่า “มีอะไรจะถามเพิ่มเติมอีกหรือไม่” คนที่อยู่หลุมพรางนี้ควรที่จะเตรียมตัวไว้ ล่วงหน้าก่อนเสมอ จัดวางลำดับขั้นตอนของเรื่องที่จะพูด อาจยกตัวอย่างมาประกอบให้เห็นชัดในบางช่วงก็ได้
4."เหน็บแนม"
เป็นการใช้คำพูดที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกสะเทือนใจแบบเล็กๆ ซึ่งทำให้ผู้ฟังเกิดความไม่พอใจ โดยเฉพาะถ้าการพูดแบบนี้กับลูกค้าของคุณ อาจจะทำให้สินค้า และบริการของคุณต่อไปก็เป็นได้ อีกทั้งหากผู้พูดไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังเป็นคนที่ชอบพูดเช่นนี้ จะทำให้ต้อง เสียคนรอบข้างไป
5."ยกตน ข่มท่าน"
เป็นคนที่ชอบพูดจาเช่นนี้ เป็นพวกที่ต้องการให้ตนเองดูโดดเด่นเหนือคนอื่น คนประเภทนี้ถ้าเก่งจริงก็ดีไป แต่ถ้าไม่เก่งจริงอย่างปากว่า แล้วล่ะก็จะได้รับผลที่ตนเองได้ก่อไว้อย่างแน่นอน เพราะเป็นคนดีแต่พูดเวลาทำงานจริง กลับทำไม่ได้อย่างที่พูดไว้ตอนแรก ซึ่งการพูดแบบนี้ไม่ได้อะไรขึ้นมาและอาจจะทำให้คนอื่นหมั่นไส้และหนีออกห่างจากคุณอีกต่างหาก
6."ขว้างงูให้พ้นคอ"
เป็นพวกที่ชอบปัดความรับผิดชอบ เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ซึ่งในสังคมไทยสามารถพบเห็นได้มาก เพราะคนไทยขี้กลัว กลัวว่าตัวเอง จะมีความผิด จึงโยนความผิดให้คนอื่น ซึ่งการพูดเช่นนี้หากไม่ใช่เรื่องจริงก็ต้องระวังว่าถ้าอีกฝ่ายรู้ย่อมจะเสียความรู้สึก หรือถ้าเป็นกลุ่ม ลูกค้าคุณก็บอกได้คำเดียวว่า “โชคร้าย” กำลังจะมา
7."ย้ำคิด ย้ำทำ"
เป็นคนที่ชอบพูดแล้วพูดอีก เป็นการพูดแต่เรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาตลอด ซึ่งก็ลูกค้าส่วนมากก็ไม่ชอบให้ใครมาจ้ำจี้จ้ำไชตลอดเวลา และตัวคุณเองก็คงเช่นกัน ดังนั้นเมื่อคุณพูดอะไรไปแล้ว ไม่ต้องกังวลถึงงานหรือสิ่งที่ได้รับมอบหมาย หรือมอบหมายให้แก่ผู้อื่น เพื่อดำเนินการ เพราะลูกค้าหรือคนอื่นย่อมมีความคิดเป็นของตนเอง เพราะต่างคนก็โตๆ กันแล้ว
8."แพ้ชวนตี"
เป็นการพูดที่ไม่ยอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยการกระทำของตัวเอง หรือเป็นพวกที่ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แล้วยังโทษหรือตีโพยตีพายว่า เป็นความผิดของคนอื่น ซึ่งต้องระวังให้มากเพราะเมื่อคุณเริ่มปฏิเสธ คัดค้าน ในเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก็ย่อมทำให้ผู้อื่นไม่เชื่อถือ และอาจจะไม่ใช่บริการของคุณอีกเลยก็ได้
ความรักความผูกพัน